Notes

Collagen เม็ด VS Collagen ผง แบบไหนดีกว่ากัน?

ทุกคนเคยสงสัยกันไหมคะว่าสรุปแล้ว Collagen เม็ด กับ Collagen ผง แบบไหนดีกว่ากัน เพราะปัจจุบันมีคอลลาเจนในตลาดหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นคอลลาเจนชนิดผง คอลลลาเจนชนิดเม็ด คอลลาเจนธรรมชาติ เป็นต้น ซึ่งโดยทั่วไปแล้วความพึงพอใจในการเลือกซื้อก็ขึ้นอยู่กับผู้บริโภคด้วยว่าชอบรับประทานแบบไหน เพราะคอลลาเจนทั้ง 2 ชนิดต่างมีทั้งข้อดี และข้อเสียแตกต่างกันไป
ข้อดีและข้อเสียของ Collagen เม็ด VS Collagen ผง
Collagen เม็ด
ข้อดีของคอลลาเจนเม็ด
1.รับประทานง่าย ไม่มีกลิ่นคาว
2.เก็บรักษาคุณภาพของคอลลาเจนไว้ได้ดี
3.พกพาสะดวก ทานได้ทุกที่ไม่ต้องลำบากหาแก้วมาชงให้ละลาย
ข้อเสียของคอลลาเจนเม็ด
1.คอลลาเจนเม็ดบางแบรนด์อาจจะทำให้ดูดซึมยากและช้ากว่า เนื่องจากร่างกายต้องนำไปแตกตัวก่อนจึงจะสามารถดูดซึมได้
2.คอลลาเจนบางชนิดอาจต้องแบ่งเป็นโดส ในการรับประทาน อาจทำให้เกิดการลืมและรับประทานไม่ครบโดสของปริมาณคอลลาเจนที่ต้องการต่อวัน
แต่ Glory Collagen เป็นทั้งไดเปปไทด์และไฮโดรไลซ์คอลลาเจน ที่ผ่านกระบวนการทางวิทยาศาสตร์เพื่อให้ได้คอลลาเจนที่มีขนาดสั้นลง ทำให้ลำไส้สามารถดูดซึมได้ง่าย และสามารถรับประทานตอนเช้าทีเดียว 2-4 เม็ดได้โดยไม่เป็นอันตราย
Collagen แบบผง
ข้อดีของคอลลาเจนผง
1.ดูดซึมได้ไว ขึ้นอยู่กับขนาดโมเลกุลของคอลลาเจนนั้นด้วย
2.รับประทานคู่กับอาหารและเครื่องดื่มได้
3.บางแบรนด์ทำคอลลาเจนออกมาในรูปแบบขนม ทำให้รับประทานได้ง่ายกว่าคอลลาเจนปกติ
ข้อเสียของคอลลาเจนผง
1.คอลลาเจนบางแบรนด์อาจมีกลิ่นคาว ทำให้รับประทานยาก
2.บางชนิดต้องชงน้ำให้ละลายจนหมด จึงใช้เวลานานในการเตรียม
3.พกพาไม่สะดวกเท่าคอลลาเจนแบบเม็ด
4.หากผลิตคอลลาเจนออกมาในรูปแบบของขนม เมื่อต้องผ่านการแปรรูปอาจทำให้ความเข้มข้นของคอลลาเจนหายไป เมื่อเทียบกับคอลลาเจนชนิดปกติ
มาทำความรู้จักกับคอลลาเจนจากธรรมชาติบ้างดีกว่าว่าพบได้จากที่ไหนบ้าง ?
บางคนอาจสงสัยว่าแล้วถ้าเราทานคอลลาเจนจากอาหารล่ะ จะทดแทนกับการรับประทานคอลลาเจนเสริมได้หรือเปล่า ซึ่งร่างกายเรานั้นจะสามารถผลิตคอลลาเจนได้จากกรดอะมิโนจำเป็น วิตามินซี ทองแดง โอเมก้า 3 โฟลิคแอซิด น้ำ วิตามินเอ ทอรีน สังกะสี โพลีแซกคาไรด์ โดยทั้งหมดนี้คือวัตถุดิบในการสร้างคอลลาเจนของร่างกาย มีอะไรบ้างไปดูกัน
1.โปรตีนและกรดอะมิโนจำเป็น (Protein and Essential Amino Acid)
ซึ่งของกินที่มีทั้งโปรตีนและกรดอะมิโนจำเป็น คือ เนื้อสัตว์ ปลา ไข่ ผลิตภัณฑ์จากนม ถั่วเหลือง เป็นต้น
https://webboard.sanook.com/forum/index.php?topic=15286966.msg33809722#
2.คอลลาเจน (Collagen)
พบได้ในหนังหมู หนังไก่ เจลาติน และหนังปลา เป็นต้น ทั้งนี้ น้ำต้มซุปกระดูกหมูนั้นไม่ใช่แหล่งคอลลาเจนอย่างที่ใครหลายคนเข้าใจ แต่ก็ยังได้สารอาหารอื่น เช่น แคลเซียม แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส เป็นต้น
3.วิตามินซี (Vitamin C)
พบได้ในผักและผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว เช่น ส้ม มะนาว มะขามป้อม และพริกหยวก
4.สังกะสี (Zinc)
พบได้ในเนื้อวัว เนื้อแกะ เนื้อหมู หอย ชีส นม ถั่ว เป็นต้น
5.วิตามินเอ (Vitamin A)
พบได้ในผักและผลไม้สีส้ม เหลือง เช่น ฟักทอง แครอท
จะง่ายกว่าไหมหากหันมาเลือกรับประทาน Collagen เม็ด เลือกที่เป็นคอลลาเจนแบบเพียวๆ เพื่อให้ช่วยส่งเสริมการสร้างเซลล์และฟื้นฟูผิวได้อย่างตรงจุด เพราะหากสาวๆ ลองนึกภาพดูว่า ขาหมู มีเจลาตินซึ่งเป็นแหล่งคอลลาเจน แต่ประเด็นคือเมื่อเราทานขาหมู สิ่งที่เราได้รับไม่ได้มีเพียงแค่คอลลาเจนอย่างเดียว แต่เราจะได้ทั้งไขมัน คอลเรสเตอรอล และน้ำตาลแถมมาด้วย
ไม่ว่าจะเป็นคอลลาเจนแบบไหนก็อาจจะให้ผลลัพธ์ที่ใกล้เคียงกันไม่มากก็น้อย อยู่ที่ความชอบและความสะดวกของผู้บริโภคเป็นหลัก การเลือกคอลลาเจนที่ผลิตและมีสารสกัดมาจากธรรมชาติอย่าง Glory Collagen เม็ดที่เป็นไดเปปไทด์ คอลลาเจนจากปลาทะเลน้ำลึก นำเข้าจากญี่ปุ่น พร้อมเลือกรับประทานอย่างพอดี ไม่มากเกิน ไม่น้อยเกินไป และรับประทานคู่กับอาหารเสริมที่มีประโยชน์ เช่น Glory Tomato Vit C และหมั่นดูแลตัวเองเป็นประจำไม่ว่ายังไงผิวก็สวยพร้อม Glow

My Website: https://webboard.sanook.com/forum/index.php?topic=15286966.msg33809722#