Notes

ภัยธรรมชาติแบบไหนบ้าง ที่ประกันรถจะคุ้มครอง
สภาพอากาศเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่คาดเดาได้ยาก เพราะไม่มีทางฟันธงได้ 100% เลยว่าอีกกี่นาทีถัดไปจะกำเนิดอะไรขึ้น แม้กระทั่งฝนตั้งเค้าทำท่าว่าจะตก แต่ว่าจู่ๆก้อนเมฆครึ้มก็หายไปกลายเป็นอากาศที่ร้อนระอุอย่างเดิม หรือแดดส่องทั่วฟ้าอยู่ดีๆฝนก็ตกลงมากระทั่งไม่อาจจะระบายน้ำได้ทันแปลงเป็นน้ำท่วม เพื่อคุ้มครองป้องกันรถยนต์ที่รักจากภัยธรรมชาติ ก็เลยจำเป็นมากที่จะจำต้องซื้อประกันรถเพื่อกระจายความเสี่ยงครับผม

ภัยที่เกิดขึ้นจากธรรมชาติ เป็นยังไง เพราะอะไรจะต้องทำประกัน
ทุกคนรู้กันดีอยู่แล้วว่าภัยจากธรรมชาติ ได้ผลสำเร็จกระทบจากธรรมชาติที่มาในรูปแบบต่างๆเป็นต้นว่า ดินกระหน่ำ อุทกภัย ไฟเผา พายุฝน แผ่นดินไหว หรืออุกกาบาต ซึ่งสิ่งพวกนี้ทำให้สินทรัพย์รวมทั้งชีวิตของผู้คนได้รับความย่ำแย่ และสำหรับประเทศไทยเอง แม้จะไกลห่างกับการเจออุกกาบาต แต่ว่าก็พบเห็นกับภัยธรรมชาตอื่นๆได้แก่

แผ่นดินไหวในภาคใต้
พายุหน้าร้อนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
โดยเหตุนั้น เพื่อให้รับแรงกระแทกน้อยที่สุด ก็เลยจะต้องทำรับรองครับ เรื่องนี้ทำให้ คปภ. ไม่สบายใจมาก ถึงกับได้เตือนให้ประชาชนอย่าประมาทภัยธรรมชาติเลยจ๊ะนะครับ เนื่องจากไม่รู้จักว่าภัยจากธรรมชาติที่จะเกิดขึ้นในอนาคตจะร้ายแรงขนาดไหน ซึ่งหนึ่งในสัญญาประกันภัยที่ คปภ. ได้แนะนำให้ซื้อไว้เป็น ประกันรถ

น้ำหลาก รถไฟไหม้ ภัยพิบัติธรรมชาติ ประกันรถปกป้องไหม
1.รถยนต์อุทกภัย น้ำเข้ารถ รับรองคุ้มครองไหม
รถยนต์น้ำหลาก น้ำเข้ารถยนต์ หายนะน้ำท่วม ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ให้ความคุ้มครองอย่างครอบคลุม เนื่องจากว่าเบี้ยประกันรถยนต์แพงที่สุดในบรรดาประกันรถยนต์ทั้งปวง แต่ ประกันภัยรถยนต์ชั้น 3+ ไม่ปกป้องครับผม ซึ่งสิ่งที่จะเคลมได้คือ ความเสียหายที่เกิดขึ้น ค่าพยาบาล ฯลฯ
2.ลมพายุ พายุฝน ประกันคุ้มครองป้องกันไหม
เพื่อรถยนต์ที่เสียหายจากภัยที่เกิดขึ้นจากธรรมชาติอย่างลมพายุฝน ได้รับการคุ้มครอง ก็เลยจึงควรมีประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 เอาไว้ในครอบครองนะครับ แม้กระนั้น รับรองชั้น 2+ ก็บางทีอาจป้องกันด้วยเหมือนกันขอรับ (ซึ่งอยู่ที่ข้อแม้อื่นๆเสริมเติม) ดังนั้น ก่อนซื้อประกันภัยรถยนต์ควรจะเช็กความปกป้องอย่างละเอียดนะครับ
3.ดินถล่ม เทือกเขาถล่ม รับรองป้องกันไหม
ใครที่ดำเนินชีวิตอยู่ในเมืองหลวงคงจะไม่ค่อยได้ประสบพบเห็นดินถล่ม หรือเทือกเขากระหน่ำเสมอๆนัก เว้นเสียแต่ว่าขับขี่รถออกต่างจังหวัดแล้วเจอจังหวะดินกระหน่ำจริงๆซึ่งภัยพินาศธรรมชาติอย่างดินถล่ม หรือเทือกเขาถล่มสร้างความเสียหายได้พอกับอุทกภัยรถยนต์ ไฟเผารถ เลยครับผม

ที่มาของดินถล่ม ภูเขาถล่มมีต้นเหตุจากฝนที่ตกหนัก ทำให้หน้าดินไหลลงมา เปลี่ยนเป็นดินโคลน ซึ่งมากับหินขนาดเล็กใหญ่ แน่ๆว่าถ้าหากขึ้นในตอนที่ขับขี่รถขึ้น-ลงเขา หรือริมถนนมีกองดิน จะมีผลให้รถยนต์คุณเสียหาย ร้ายที่สุดเป็นถึงกับตาย

เมื่อเกิดเหตุการณ์อย่างนี้ขึ้นจับมือใครดมไม่ได้ ไม่รู้จักว่าจำต้องเรียกร้องค่าเสียหายจากผู้ใดกัน ทางเดียวคือจำเป็นต้องปกป้องตัวเอง และประกันรถชั้น 1 ตอบปัญหาในเหตุการณ์นี้ที่สุดขอรับ เนื่องจากว่าป้องกันอย่างครอบคลุมในเรื่องของภัยอันตรายธรรมชาติ
4.รถไฟไหม้ ประกันรถคุ้มครองปกป้องไหม
รถไฟไหม้ จริงๆมีทั้งยังในกรณีที่เป็นภัยพิบัติธรรมชาติ และก็มีต้นเหตุจากอุบัติเหตุ จะต้องบอกก่อนว่าไม่มีผู้ใดไปจอดรถยนต์ไว้กึ่งกลางป่าแน่นอน แต่เมื่อใดก็ตามที่เกิดไฟป่าขึ้นแล้วบ้านรวมทั้งรถยนต์ของคุณอยู่ในแถวนั้น แน่นอนว่าจำต้องได้รับความทรุดโทรมจากไฟป่าอยู่แล้วนะครับ ซึ่ง ประกันรถยนต์ชั้น 1 คุ้มครองป้องกันแน่ๆ

5.แผ่นดินไหว ประกันรถยนต์ปกป้องไหม
เพื่อต่อกรกับเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ไม่เคยทราบว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไร การมีประกันรถยนต์ชั้น 1 ก็เลยจะช่วยปกป้องเงินอย่างรถยนต์ให้กับคุณ

6.อุกกาบาตหล่นใส่รถยนต์ รับรองคุ้มครองปกป้องไหม
ซึ่งเรื่องแบบนี้นับว่าเป็นภัยทางธรรมชาติ 100% ประกันรถจำต้องคุ้มครองอยู่แล้ว ซึ่งแน่ๆว่ามีเพียงแค่ประกันรถชั้น 1 เท่านั้น

สรุป
เรื่องภัยที่เกิดจากธรรมชาติเป็นพลังงานที่ไม่มีผู้ใดยับยั้งได้ และก็ทำให้ชีวิตและสินทรัพย์จำเป็นต้องเสียหาย ในส่วนของเงินทองอย่างรถยนต์การมีประกันรถไว้เพื่อช่วยคุ้มครองป้องกันการเสี่ยงจากภัยที่เกิดขึ้นจากธรรมชาติจึงจำเป็นมาก ไม่ว่าจะกำเนิดภัยอันตรายธรรมชาติที่ทำให้รถน้ำท่วม น้ำเข้ารถยนต์ ไฟไหม้รถยนต์ หรืออะไรก็แล้วแต่ สามารถใช้ประกันรถยนต์ชั้น 1 ที่คุณมีอยู่ ขอเคลมประกันรถยนต์ได้เลยครับผม!
https://www.viriyah.com/motor-insurance/class-one/premium

My Website: https://www.viriyah.com/motor-insurance/class-one/premium