Notes
![]() ![]() Notes - notes.io |
ไม่รู้ป๊าลืมหรือยังนะเรื่องนี้ แต่บอกให้ว่าผมไม่เคยลืม..... ป๊ารู้ไหมว่าสิ่งที่เต้ฝังใจตั้งแต่เด็ก และมันยังตามมาจนถึงทุกวันนี้คืออะไร? ยังจำได้มั้ยสมัยที่เต้เรียนกสิณธรณ์แล้วป๊าไปส่งที่โรงเรียน เพราะเต้ตื่นไม่ทันรถตู้รับส่ง แล้วเต้ก็บอกให้ป๊าส่งห่างๆประตูหน่อย รู้มั้ยปีาเคยถามว่าอะไร...อายเพื่อนเหรอ? มันเป็นสิ่งที่ได้ยินแล้วกลืนไม่เข้าคายไม่ออก...เพราะอะไรป๊าถึงคิดแบบนั้นล่ะ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาก็คิดได้ว่า ป๊าไม่รู้จักเราเลยซักนิด เพราะเขาทำแต่งานนี่หว่า แล้วอยากรู้ไหมว่าความจริงที่เกิดขึ้นนั้นคืออะไร? ที่ให้ส่งหน้าประตูเพราะเพื่อนผู้หญิง มันเป็นเด็กกิจกรรม พอป๊ามาส่งหน้าประตูมันก็ล้อ เชิงที่ว่า มาโรงเรียนเองยังไม่ได้อีก ต้องให้พ่อแม่มาส่งหรอ? ....แต่การที่เต้ไม่ได้บอกความจริงนั้น มั่นใจว่าป๊าต้องคิดว่า เต้อายเพื่อนใช่ไหมที่ไม่มีรถมาส่งน่ะ ....สิ่งนี้แหละเป็นแผลแรกในจิตใจที่เจ็บที่สุด จนถึงทุกวันนี้เมื่อนึกถึงมัน บอกตรงๆเลยว่า ถึงจะอายุ 24 แล้วก็ยังน้ำตาซึมอยู่ตลอดไม่เคยทำใจได้
.... ก็ไม่รู้จะพูดอะไรหรอก คือการเป็นผู้ชาย แต่มันไม่ได้การันตีว่าต้องสนิทกับพ่อมากที่สุด อันนี้ก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเหมือนกัน มันมีเส้นบางๆขั้นอยู่ตลอด ไม่ว่าจะทำอะไรเต้จะเกร็งหรือเกรงใจป๊ามากกว่าแม่เสมอ ไม่ว่าความคิด หรือว่าการวางตัว อาจเป็นเพราะไม่ค่อยได้เจอกัน อยากให้ถูกมองแบบเข็มแข็ง ก็อาจเป็นได้เหมือนกัน ไม่รู้สินะ
ไม่ได้หวังว่าจะให้เข้าใจความคิด หรือเข้าใจตัวตนที่แท้จริงหรอก เพราะก็รู้ๆกันอยู่ เพราะไม่มีเวลาอยู่ด้วยกันนัก ป๊าทำงานเกิน 70%-80% ของชีวิตหลังมีลูกคนนึง กลับบ้านมาพักนึงก็ไปอีกล้ะ
เสาร์อาทิตอ่ะจริงๆไม่ได้หยิ่งหรือสันโดษไรมากนักหรอก ที่ไม่ได้หาอะไรทำด้วยหรือไปไหนด้วย มันก็เพราะอยากให้นอนพักบ้าง ทำงานหนักตลอด5วัน จะเที่ยวให้แทบตาย ไปเจอบรรยากาศดีๆแค่ไหน มันก็ไม่สามารถเทียบเท่าการนอนได้ การนอนนั่นแหละคือการพักที่ดีที่สุดแล้ว เรื่องนี้จะคิดไม่ถึงก็ช่าง ไม่เห็นสนใจว่ารู้หรือเปล่า
แต่เพราะความไม่ลงตัวแบบนี้ มันเลยทำให้ไม่สนิทกันเท่าที่คาดไว้
ตอนเด็กๆไม่เคยคิดได้หรอก เล่นเกมส์ไปวันๆ แต่คบเพื่อน ไม่ได้ติดยา ไม่บุหรี่ตามเพื่อน อันนี้เบาใจได้
จนขึ้นมหาลัยถึงเริ่มจะตระหนักขึ้นได้ อันที่จริงก็เสียใจนะว่าทำไมถูกเลี้ยงมาแบบนี้ ไม่ได้หมายความว่าไม่ต้องการหรอก แต่พอโตขึ้นจริงๆ แล้วก็คิดได้ว่า การที่ได้รับสิ่งต่างๆเยอะขนาดนี้ เราสมควรได้รับมันจริงหรอ ในขณะที่พ่อแม่เหนื่อยแต่เรากลับสบายที่สุด
ถ้าจะให้พูดจริงๆ สิ่งที่ทำร้ายตัวเองมากที่สุด คงเป็นการแสดงออกมากกว่า เพราะว่าทำเป็นไม่ค่อยสนใจอะไร เต้วางตัวนิ่งๆเกินจนไม่สนิทใจ เราต่างรู้กันดีว่าจะคุยอะไรกันสักทีมันยากจัง
จนเกิดเหตุการแบบนี้ ก็คือถ้ามีใครสักคนป่วย ไม่ว่จะเจ็บมากหรือน้อย ไม่ยักเคยบอกเลย อันนี้ไม่รู้ว่าไม่บอกเพราะไม่จำเป็นต้องรู้เด็กมีหน้าที่เรียน หรือไม่อยากบอกเพราะกลัวเป็นห่วงก็ตาม แต่สิ่งนี้มันทำให้ยิ่งรู้สึกย่ำแย่มากขึ้น เพราะอะไรล่ะถึงไม่มีสิทธิ์รู้ล่ะ
เรื่องนั้นช่างมันเถอะ มาพูดถึงชีวิตมหาลัยก่อน ไม่รู้ว่าช่วงไหนเหมือนกันว่าป๊าให้เงินค่าใช้จ่ายมากขึ้น บอกตรงๆว่าลืมแล้วเพราะช่วงนั้นทำตัวแย่มากในฐานะลูกคนเดียว ไม่คิดเรื่องการใช้จ่าย บ้าเรื่องอื่นๆไม่สนใจที่บ้าน เป็นแบบนี้เต็มๆประมาน 1 ปีกว่า จนกระทั่งถึงปี4 ปีสุดท้ายของการเรียน เมื่อสติมันกลับมาอยู่กับตัว ทำให้เห็นความจริงว่า สิ่งที่เสียใจที่สุดไม่ใช่อะไรเลย นอกจากการใช้เงินสิ้นเปลืองอย่างบ้าคลั่งตลอดปีกว่าๆที่ผ่านมา เพราะนั่นหมายถึง พ่อแม่ต้องให้เราเยอะขึ้น แสดงว่าพวกเขาต้องลำบากขึ้น หรือคิดมากขึ้นหรือเปล่า?
อย่าว่าคิดเหมือนเด็กน้อยเลยนะ บางทียังคิดเลยว่า พ่อกูจะมีอะไรกินไหมวะ ให้เงินกูใช้ยังกับมีงานทำแล้วเลย จากความคิดเหล่านี้แหละ ทำให้หลังจากปี 4 เป็นต้นมา พยายามบริหารเรื่องการเงินเอาเองอย่างมากให้คุ้มกับจำนวนเงินที่ได้รับมา ถึงจะไม่เป็นชิ้นเป็นอันมาก แต่จะบอกให้ฟังคร่าวๆแล้วกัน อยากให้ได้รับรุ้บ้าง เพราะเวลาเราคุยกันมันน้อยเหลือเกิน ไม่รู้อนาคตจะน้อยกว่านี้ไหม...
ก็คือได้มาเดือนละ 3,000 จนถึงปัจจุบันนี้ บอกเลยว่าใช้แค่1,000 สำหรับสองคนกับไอซ์(ติดรถฉุกเฉิน 500) ที่เหลือเก็บหมด เอาไว้ไว้ซื้อของเข้าบ้าน และอื่นๆ
ไม่รู้สังเกตไหมนะ แต่พยายามจะไม่ให้ป๊าได้ออกเงินไปซื้ออย่างอื่นอีก เช่น น้ำ กาแฟ อาหาร น้ำมันบ้าง ไม่ว่าจะเรื่องบำรุงรักษารถ อะไรก็ตามที่ป๊าต้องควักเงินจากกระเป๋าเพิ่มก็พยามซื้อแทนหมด แต่ก็ทำแบบเงียบๆ เพราะว่าอะไรล่ะ? เพราะถ้ารู้ว่าซื้อมา ก็จะให้เงินคืนกลับมาเสมอ ซึ่งไม่อยากได้มากกว่านี้หรอก นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมถึงไม่ค่อยบอกอะไรนัก ทำอะไรเงียบๆสันโดษตลอด ไม่โทษใครเพราะอันนี้เลือกเอง อยากทำเงียบๆแบบนี้แหละสบายใจ
=
จนมาถึงเมื่อเร็วๆนี้แหละ มีสิ่งนึงที่ทำให้ความคิดมันตีกันมั่วไปหมดในหัว ว่าที่กูทำมาทั้งหมด มันไม่ช่วยอะไรให้ดีขึ้นเลยจริงหรอวะ? ก็ไม่รู้ว่าสิ่งที่กำลังจะพูดนี้มันเกิดขึ้นจริงหรือไม่ แต่สัญชาตญาณมันบอกแบบนั้น
สิ่งที่เปลี่ยนไปคือการกระทำและความใส่ใจของป๊า ซึ่งบอกได้เลย เห็นเต้เป็นคนนิ่งๆแบบนี้ สังเกตุทุกอย่างอยู่ตลอด ที่ผ่านมาถึงมันจะมีบ้างที่ป๊าไม่ใส่ใจเต้หรือแม่ แต่มันก็แค่นิดเดียวไม่ติดใจอะไร ลำพังเต้น่ะ เป็นผู้ชายไม่สนอะไรมาก เคารพความส่วนตัวของป๊า ไม่เคยถามเยอะ ยุ่งเรื่องส่วนตัว ไม่จุกจิก
…. แต่ไม่นานมานี้ เต้เริ่มคิดว่ามันมากเกินไป ป๊าเริ่มจากการพยามสร้างความเคยชินกับแม่ โดยหยอกเรื่องมีเด็กที่ทำงาน อะไรบ่อยๆ เข้าห้องน้ำนานเกิ๊น มีอะไรแปลกๆมาตลอด รวมถึงสิ่งที่ป๊าทำให้เต้ครั้งใหญ่ ไม่ว่าจะเต็มใจหรือไม่ก็ตาม นั่นคือรถคันสีส้มนี้ มันเป็นที่ป๊าพยายามยัดเยียดให้เต้ใช้แต่เพียงผู้เดียว แต่ตอนนี้ ป๊าเอาไปใช้ ซึ่งจุดนี้เต้ดีใจมากจากใจจริง ป๊าสามารถมาเอาไปใช้ได้เลยโดยไม่ต้องขอเหมือนเต้เป็นคนเจ้าของขนาดนั้น แต่ก็ดีใจได้เพียงครู่เดียว เพราะสิ่งที่ป๊าพูดมา กับความจริงที่เกิดขึ้นมันไม่ตรงกัน ....น้ำในรถ 2 ฝานั้นหมายความว่าอะไร, หรือเอาไปขนของที่ไปรษณีย์ซึ่งตลอดมาไม่เคยมี, หลอกเต้ผู้ซึ่งขับรถคันนี้มาตลอด 3-4 ปี หลอกว่าเอาไปซ่อมเนี่ยนะ กลับมาก็เหมือนเดิมอะเพราะเต้เป็นหนึ่งเดียวกับคันสีส้มนี้แล้ว มีจุดไหนรอซ่อมรู้อยู่แก่ใจดี.. เอารถยนต์ไปแต่ให้แม่กลับเอง มันใช่เรื่องไหม มีปิดเครื่องหนีด้วย.....มันโง่สิ้นดี แต่เต้ก็พยายามตามน้ำไป เพราะกลัวแม่จะคิดมากตาม เต้เป็นห่วงแม่มากกว่าป๊า เพราะรู้ดีว่าอดีตแม่เคยเจออะไรมาบ้าง ...บอกเลยว่าแม่อาจจะตามไม่ทัน แต่ป๊าประเมินผมผิดไปหน่อยล่ะมั้ง
บอกตรงๆเต้ไม่สนนะ ว่าป๊าจะไปเที่ยวผับ ลงอ่าง สูบบุหรี่ ดูดกัญชา อะไรก็แล้วแต่ ถ้าทำแล้วมันผ่อนคลาย หากไม่ร้ายแรงอะไรมากก็จะยอมให้ เพราะป๊าเหนื่อยมามาก เต้ไม่รู้หรอกว่าป๊ามั่นใจตัวเองขนาดไหน ไม่รู้หรอกว่าป๊าผ่านการใช้ชีวิตมาเท่าไร เบื่อการใช้ชีวิตแบบนี้หรือยัง หรือคิดรึยังว่าตัวเองจะตายเมื่อไร อันนั้นแล้วแต่ หลากคนหลากความคิด เพราะรู้ดีว่านิสัยเป็นยังไง ไม่ค่อยห่วงตัวเองเท่าที้ควร ให้คนอื่นซะมากไป
ดังนั้นสิ่งที่ต้องการที่แท้จริงคือ ป๊าต้องใช้ชีวิตอยู่จนถึงเต้ประสบความสำเร็จ และให้เต้ได้มีโอกาสดูแลป๊าผู้ซึ่งไม่ค่อยดูแลตัวเองมาก่อน และทำให้ป๊าสบายได้ซักที
... ไม่รู้ว่ามั่นใจที่มีมันขนาดไหนนะ แต่ข้อเดียวนี่แหละทำได้ป่าวล่ะ
ป๊าคิดว่าเต้เล่นแต่เกมส์ น้่งกดคอมไปวันๆงั้นหรอ? ถ้าเต้อยากรู้จริงๆล่ะก็ ไม่ต้องแตะโทรศัพท์ป๊าเลยสักนิดเดียว เต้ก็รู้ความจริงได้จากความสามารถที่เต้มีอยู่ แต่เป็นเต้เองนั่นแหละที่ไม่อยากล้วงความลับไปมากกว่านี้ (รีเซ็ตโรงงานก็ใช่ว่าจะหนีพ้นหรอก)
ป๊ามีความลับอะไรปิดบังไว้งั้นหรอ? ไว้โอกาสเหมาะๆมาคุยกันไหม.. แค่เรา 2 คน
![]() |
Notes is a web-based application for online taking notes. You can take your notes and share with others people. If you like taking long notes, notes.io is designed for you. To date, over 8,000,000,000+ notes created and continuing...
With notes.io;
- * You can take a note from anywhere and any device with internet connection.
- * You can share the notes in social platforms (YouTube, Facebook, Twitter, instagram etc.).
- * You can quickly share your contents without website, blog and e-mail.
- * You don't need to create any Account to share a note. As you wish you can use quick, easy and best shortened notes with sms, websites, e-mail, or messaging services (WhatsApp, iMessage, Telegram, Signal).
- * Notes.io has fabulous infrastructure design for a short link and allows you to share the note as an easy and understandable link.
Fast: Notes.io is built for speed and performance. You can take a notes quickly and browse your archive.
Easy: Notes.io doesn’t require installation. Just write and share note!
Short: Notes.io’s url just 8 character. You’ll get shorten link of your note when you want to share. (Ex: notes.io/q )
Free: Notes.io works for 14 years and has been free since the day it was started.
You immediately create your first note and start sharing with the ones you wish. If you want to contact us, you can use the following communication channels;
Email: [email protected]
Twitter: http://twitter.com/notesio
Instagram: http://instagram.com/notes.io
Facebook: http://facebook.com/notesio
Regards;
Notes.io Team