Notes

ความทุกข์ของชาวนาในบทกวี
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามราชกุมารี ทรงพระราชกรณียกิจหลายประการ ทรงพระราชนิพนธ์วรรณกรรมร้อยแก้ว ร้อยกรอง และงานแปล ในงานพระราชนิพนธ์แต่ละเรื่อง สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามราชกุมาร ทรงกล่าวแสดงความคิดเห็นถึงงานเขียนเกี่ยวกับความทุกข์ของชาวนาของ จิตร ภูมิศักดิ์ และทรงแปลบทกวีจีนของ หลี่ เชิน ตอนประเพณีดั้งเดิมที่เขียนขึ้นสมัยราชวงถัง ทั้งสองบทกวีนี้ตัดมาจากบทความหมวดชวนคิดพิจิตรภาษาในพระราชนิพนธ์เรื่องมณีพลอยร้อยแสง สองบทกวีนี้มีวิธีการเขียนที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดคือ จิตร ภูมิศักดิ์ จะแต่งเหมือนดังกับว่าตัวเองเป็นชาวนา หลี่ เชิน จะแต่งเป็นเหมือนการเล่า แต่ทั้งสองท่านมีแนวความคิดที่คล้ายคลึงกัน มุ่งที่จะกล่าวถึงความทุกข์ยากของชาวนา และทำให้เห็นว่าชาวนาในทุกแห่งและทุกสมัยล้วนแต่ีความทุกข์ยากไม่แตกต่างกันคือ การไม่ได้รับความเป็นธรรมทำให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ย่ำแย่ การไม่ได้รับประโยชน์เท่าที่ควร และความลำบากของชาวนา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามราชกุมารี ทรงเข้าพระทัยในปัญหาเหล่านี้ และความเมตตาของพระองค์ที่มีต่อชาวนา

คุณค่าของบทกวีเรื่องความทุกข์ของชาวนาในบทกวีนี้มีคุณค่าที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็นคุณค่าด้านภาษาคือ กลวิธีในการแต่งบทกวีเป็นตัวอย่างของบทความที่สามารถยึดถือเป็นแบบอย่างได้มีแนวความคิดที่ชัดเจนลำดับเรื่องราวเข้าใจง่าย  และมีส่วนประกอบอย่างครบถ้วน ส่วนคุณค่าทางวัฒนธรรมทำหน้าที่ผู้สืบต่อวัฒนธรรมของชาติจากคนไปสู่คนอีกรุ่นหนึ่ง ทำให้เห็นถึงวัฒนธรรมของเราและของต่างประเทศ คุณค่าด้านสังคมแสดงให้เห็นถึงสภาพชีวิตความเป็นอยู่ของชาวนาไม่ว่าจะเป็นสมัยไหนล้วนแล้วแต่มีความยากลำบากเหมือนๆกัน และยังทำให้เราได้เห็นถึงความยากลำบากชองชาวนากว่าจะได้้ข้าวมานั่นต้องเหนื่อยขนาดไหนแถมยังได้ประโยชน์ไม่เท่าที่ควร ได้เห็นถึงการไม่ได้ให้ความสำคัญการถูกละเลย ในส่วนของการนำมาประยุกต์ใช้นั่นสามารถนำแบบอย่างในการเขียนมาใช้การเรียงลำดับความ เข้าใจง่าย และชัดเจน ทำให้เราได้เห็นคุณค่าของข้าวที่กินกันประจำๆ กว่าจะได้เมล็ดข้าวมาแต่ละเม็ดล้วนต้องเหนื่อยและยากลำบากขนาดไหนกว่าชาวนาจะได้ข้าวมา เราก็ควรที่จะเห็นคุณค่าของข้าวไม่ควรกินทิ้งกินขว้าง้เสียประโยชนกว่าจะได้ข้าวมานั่นไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย ขนาดชาวนาลำบากขนาดนี้เขาสามารถที่จะเปลี่ยนอาชีพได้ แต่ชาวนาก็ยังคงที่จะทำต่อไปตั้งแต่เช้าจนมือคำ่ หลังสู้ฟ้า หน้าสู้ดิน หลังคดหลังแข็งปลูกข้าวมาให้เราได้กิน จึงควรที่จะสำนึกไว้ แต่เหตุใดกันคนบางกลุ่มกลับไม่ตระหนักถึงความสำคัญของชาวนาจึงโกง กดราคาข้าว และไม่ให้ความเป็นธรรมกันเช่นนี้ ถ่ายทอดบอกต่อความรู้ที่ได้รับความรู้สึกนี้ให้คนอื่นได้รับรู้ เพื่อสังคมและหน่วยงานต่างๆจะได้ตระหนักถึงความสำคัญของชาวนามากยิ่งขึ้น และเล็งเห็นปัญหาต่างๆนี้เพื่อจะนำไปแก้ไข

ทรรศนะที่มีต่อเรื่องความทุกข์ของชาวนาในบทกวีนี้ เรื่องนี้แสดงให้เราเห็นผ่านการเล่าเรื่องโดยกลวิธี เวลา เชื้อชาติ สมัยที่แตกต่างกัน แต่มีเนื้อหาใจความที่คล้ายคลึงกัน มีเนื้อหาที่สนุกเข้าถึงอารมณ์ทำให้รู้เหมือนตัวเราเป็นชาวนาซะเอง เนื้อหามีความเป็นมาที่ชัดเจนตรงไปตรงมา มีการใช้ศัพท์ที่เหมาะสมเข้าใจง่ายทำให้รู้สึกเข้าถึงอารมณ์และคล้อยตาม เห็นด้วยกับเรื่องทั้งหมดทั้งมวลนี้ของความทุกข์ของชาวนาในบทกวี เพราะเป็นความจริงที่ว่าชาวนานั่นต้องเหนื่อยและลำบากมากกว่าจะได้ข้าวมา แถมไม่ได้รับความเป็นธรรม โดนโกง เหมือนกับข่าวบ้านเมืองในปัจจุบันเรานี้ที่ชาวนาก็ออกมาเรียกร้องความเป็นธรรมแกตนเอง การโดนกดราคาข้าว โดนโกงเงิน ไม่ค่อยมีใครเห็นถึงความสำคัญ ถูกละเลย