Notes

ชื่อเรื่อง ความโลภทำให้ขาดสติ
สรุป ใจความสำคัญ ประเด็นสำคัญ
มีนายพรานคนหนึ่งเข้ามาในป่าเพื่อที่จะจับนกพิราบโดยการโปรยเมล็ดข้าวไว้ใต้ข่าย มีนกพิราบหนึ่งฝูงบินผ่านมาพญานกพิราบเห็นเมล็ดข้าวเกิดความสงสัยเลยไม่ให้บริวารลงไปกินแต่ก็ไม่มีใครเชื่อเลยบินลงไปกินและแล้วก็โดนจับ นกทุกตัวโทษนกตัวนำ สุดท้ายนกพิราบทุกตัวก็หนีออกมาได้เพราะความสามัคคี
ประเมินคุณค่า ประโยชน์ การนำไปใช้
นิทานเรื่องนี้มีคุณค่าที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็น การเชื่อฟัง ความสามัคคี ทั้งสองอย่างนี้เป็นสิ่งสำคัญ ดังเช่นในเรื่องบริวารของนกพิราบไม่เชื่อฟังในสิ่งที่พญานกพิราบบอกทำให้ถูกนายพานจับได้
ในด้านการนำไปใช้นั้นเราสามารถนำคุณค่าที่ได้นั้นนำมาประยุคใช้ในชีวิตประจำวันได้ทั้งหมดเลยเช่น ไม่ควรที่จะคิดมากหรือกังวลกับสิ่งที่ยังมาไม่ถึง แต่ให้คำนึงถึงสิ่งที่กำลังทำอยู่ในตอนนี้ เพราะมันเป็นเรื่องของอนาคต เราควรที่จะทำวันนี้ให้ดีที่สุดอยู่ในขณะปัจจุบัน ปัจจุบันมันเป็นประตูบานแรกที่เราจะต้องเดินผ่านก่อนถ้าเรามัวแต่คิดถึงแต่อนาคตแต่ปัจจุบันเรายังทำได้ไม่ดี มันก็จะส่งผลให้อนาคตนั้นแย่ลงตามไปด้วย ไม่เช่นนั้นเราอาจจะเสียใจหรือเสียดายไปชั่วชีวิตและรู้สึกผิดไปตลอดกาล เรียนรู้ที่จะเชื่อฟังผู้ที่ใหญ่เหมือนสำนวนที่ว่าผู้ใหญ่นั้นเขาอาบน้ำร้อนมาก่อนแล้วหรือจะเป็นสำนวนที่ว่าเดินตามหลังผู้ใหญ่หมาไม่กัด ทั้งสองสำนวนนี้ก็ไปในทิศทางเดียวกันคือการเชื่อฟังและทำตามในสิ่งที่ผู้ใหญ่บอกกล่าวหรือสั่งสอนเรา เพราะท่านนั้นผ่านอะไรมาเยอะกว่าเรามีประสบการณ์เยอะกว่าเรา ท่านรู้ว่าอะไรควรอะไรไม่ควรอะไรดีอะไรไม่ดี เชื่อฟังตั้งแต่ตอนนี้ดีกว่ามาเสียใจหรือเสียดายในภายหลัง และสุดท้ายก็คือความสามัคคี ความสามัคคีมันช่วยเราได้หลากหลายอย่างมันทำให้เราเป็นคนที่นึกถึงส่วนรวมเป็นสำคัญ ทำให้เราทำงานอย่างเป็นระบบมากขึ้น บางสิ่งบางอย่างเราไม่สามารถทำคนเดียวได้ต้องอาศัยการรวมมือของบุคคลอื่นด้วยและการทำงานจะเร็วขึ้นถ้ามีความสามัคคี เช่นการทำงานเป็นกลุ่มที่โรงเรียนเป็นต้น
แสดงทรรศนะ (ความคิดเห็น)
นิทานเรื่องนี้มีการใช้ศัพท์หรือคำที่ยากต่อการเข้าใจ มีใจความที่ไม่ชัดเจนนัก ทำให้ผู้อ่านเกิดความสับสนได้ว่าเรื่องนี้ต้องการจะบอกหรือสื่อะไร ควรที่จะใช้ศัพท์ที่ง่ายต่อการเค้าใจ้ เพราะจะทำให้เข้าใจเนื้อหาได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ควรที่จะเปลี่ยนแนวทางในการดำเนินเรื่อง เพราะการดำเนินเรื่องไม่มีแรงจูงใจทำให้รู้สึกเบื่อได้ ควรที่จะอธิบายหรือให้ลายละเอียดเน้นในส่วนของสาเหตุเพื่อที่จะทำให้เราเข้าใจและกระจ่างยิ่งขึ้น และควรที่ลดเนื้อหาในส่วนที่ไม่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่จะสื่อเพราะมันจะทำให้เกิดความสับสนได้
ความรู้สึกแฝง
รู้สึกเศร้าใจกับการที่บริวารนกไม่เชื่อฟังพญานกแต่ไปเชื่อนกเพียงตัวเดียวที่โต้แย้งพญานก กลับไปเชื่อนกเพียงตัวเดียวเพียงแค่คำพูดของนกตัวนั้นถูกใจเรา แต่กลับไม่ได้คิดหรือไตร่ตรองในสิ่งที่พญานกพูด หรือความเป็นจริง และรู้สึกดีใจกับความสามัคคีของเหล่านกพิราบที่สามารถตั้งสติและพร้อมใจกันบิน และสามารถหนีนายพรานได้ เพราะพญานกได้เตือนสติเหล่าบริวารอีกครั้ง บริวารคิดตาม เหมือนสำนวนที่ว่า ไม่เห็นโลงศพ ไม่หลั่งน้ำตา คือ ทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่ไม่ดีลงไป แล้วพอมานึกได้อีกที ก็สายเกินไปแล้ว ถ้าเหล่าบริวารนกไม่โดนจับก็คงไม่สำนึกหรือเข้าใจ
เจตนาของผู้แต่ง
ผู้แต่งมีเจตนาเพื่อที่จะบอกกล่าวตักเตือนเรา สะท้อนให้เราเห็นถึงผลของสาเหตุต่างๆไม่ว่าจะเป็นผลของความโลภ ผลของการไม่เชื่อฟัง ผลของความสามัคคี หรือผลของการขาดสติ ทุกการกระทำย่อมเกิดผลตามมา ดังเช่นในปัจจุบันมีข่าวที่ไม่ดีมากมายไม่ว่าจะเป็นข่าวคดีข่มขืนหรือปล้นล้วนแล้วเกิดจากขาดสติและตวามโลภทั้งนั้น เพราะคนในปัจจุบันนี้ส่วนใหญ่อยากมีอยากได้เหมือนคนอื่น นึกถึงแต่ตัวเองไม่ค่อยสนใจคนรอบข้างทำให้เกิดช่องโหวเหมือนการขาดภูมิคุ้มกัน เมื่อขาดภูมิคุ้มกันสิ่งที่ไม่ดีก็จะเข้ามาถึงตัวเราได้อย่างง่ายดาย เพราะว่ามันขาดตัวที่จะป้องกัน ถ้าทุกคนนึกถึงบุคคลอื่น สนใจสิ่งรอบข้างให้มากขึ้นสิ่งเหล่านี้ก็จะลดลง